เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?

Image
เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?  Dr. Van K. Tharp พูดเสมอว่า “นักเทรดไม่เทรดตามที่ตลาดเป็นหรอก  แต่พวกเขาเทรดตามความเชื่อของพวกเขา”   เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างสมบูรณ์   ความเชื่อของผมมีดังนี้:  1) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลไกการซื้อ/ขายที่สมเหตุสมผลและช่วยให้เขาลงมือตามสัญญาณได้ทันที   2) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางที่สมเหตุสมผลในการกำหนด Position Size ของเขาอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยลดความน่าจะเป็นที่จะถูกทำลาย   3) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ช่วยลด Drawdown ของ Equity Curve เพื่อทำให้เขาเครียดน้อยลง   4) ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเสมอ มันจะขึ้น, ลง, และไซด์เวย์ 5) การลอกกลยุทธ์คนอื่นมาใช้ทั้งดุ้น มักจะไม่เวิร์ค  การสร้างกลยุทธ์หรือพัฒนากลยุทธ์ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณคือแนวทางที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 6) ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในการเทรด   7) ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ - Tom Basso จากหนังสือ The All-Weather Trader

Improve Patience to Improve Performance : วิธีพัฒนาตัวเองให้มีความอดทน

โดย เซียว จับอิดนึ้ง : facebook.com/zyoit


Day Traders, Improve Patience to Improve Performance

เคยไหมที่คุณเข้าซื้อหุ้นในตอนที่มันย่อถึงแนวรับโดยคาดหวังว่าการซื้อครั้งนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของการย่อในขาขึ้น
แต่แทนที่มันจะเด้ง คุณพบว่าตัวเองต้องขาดทุนเพราะว่าราคากลับร่วงต่อ
แต่โชคดีที่คุณเคารพ stop loss จึงสามารถรักษาเงินต้นไม่ให้สูญเสียไปมากกว่านี้ได้
แต่กระนั้นในใจคุณก็รู้สึกโมโหตัวเองที่ไม่มีความอดทนพอที่จะรอให้ได้จุดซื้อที่ดีกว่า แถมซ้ำร้ายคุณก็เข็ดและพาลโมโหทิ้งตัวนั้น ไม่สนใจมันอีก ไปหาหุ้นตัวใหม่ และแล้วอีกไม่กี่วันหุ้นตัวนั้นก็วิ่งแรงกลับไปทำนิวไฮได้ทำให้คุณปวดใจเป็นอย่างมาก

คุณได้พลาดช่วงต้นเทรนด์ของขาขึ้นที่แท้จริง  อย่างน่าเขกกะโหลก

นี่คืออาการของคำที่เราเรียกว่า "เข้าผิดจังหวะ" ที่นักเทรดหน้าใหม่ต้องเจอกันเป็นประจำ พวกเขามักจะซื้อหุ้นก่อนเวลาอันควรแล้วก็เจอการเขย่าให้ต้องตัดใจขายหุ้นออกตามระบบ ทำให้เขาพลาดจุดเริ่มต้นของการขึ้นที่แท้จริง สาเหตุก็คือพวกเขาขาดความอดทน

การรู้จักใช้ stop loss เป็นแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอถ้าหากคุณยังขาดความอดทนในการรอ

คุณน่าจะเคยเข้าซื้อหุ้นที่ false breakout จากนั้นมันก็ร่วงแรง จนคุณต้องขายตัดขาดทุนไป จากนั้นก็ไม่ให้ความสนใจมันอีก เพราะว่าคุณเข็ด ท้อแท้ หรือคุณได้ย้ายเงินไปซื้อหุ้นตัวใหม่ไปหมดแล้ว
หรือบางคนอาจจะไม่กล้าตัดขาดทุนเพราะกลัวมันเด้ง แต่ก็ต้องรู้สึกขุ่นมัว เพราะราคากลับร่วงต่อ ทำให้ขาดทุนเพิ่มเป็นจำนวนมาก
คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างหรือไม่?

เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้นักเทรดมักจะพูดว่า "จังหวะของเราไม่ดีเลย" "คร่อมจังหวะอีกแล้วสิ" นั่นเป็นความจริง แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณคิดว่า "ฉันไม่มีความอดทนมากพอ"

นักเทรดผู้ไม่มีความอดทน ก็มักจะต้องเจอกับการขาดทุนที่ไม่จำเป็นเสมอ แถมมันก็ยังทำให้เกิดความเครียด เสียอารมณ์ และเสียพลังงานโดยใช่เหตุ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เองที่จะทำให้คุณพลาดสัญญาณซื้อที่ถูกต้องซึ่งมักจะเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่คุณเพิ่งตัดขาดทุนตัวนั้นไป


How to Develop Patience in Your Trading Strategies

มันเป็นความจริงที่ว่าการเคลื่อนไหวของตลาดสามารถทำให้เราหงุดหงิดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมีความไม่แน่นอนซึ่งมันมักจะทำให้อัพเกรดสูญเสียความอดทนและมันจะนำไปสู่การกระทำดังต่อไปนี้
Overtrade
ทำให้พวกเขาทำการเทรดบ่อยขึ้น เมืองอุจิจากการต้องขาดทุนมันทำให้พวกเขาต้องการจะเอาคืนอย่างเร็ว จึงส่งผลให้พวกเขาทำการเทรดมากขึ้น ที่สำคัญคือตอนนั้นพวกเขาจะไม่มีการนึกถึงแผน ไม่มีความรอบคอบอีกต่อไป และมันก็จะนำไปสู่การขาดทุนที่มากกว่าเดิม
การเป็นนักเทรดที่มีความอดทนมันเป็นทักษะที่เราสามารถเรียนรู้ได้แต่ประการแรกคุณจำเป็นต้องทราบ

เหตุผล 3 ประการที่ทำให้นักเทรดเสียความอดทน
1. กลัวที่จะพลาด, กลัวตกรถ(FOMO)
คุณเห็นเพื่อนได้กำไรจากหุ้นตัวหนึ่ง แล้วเกิดความรู้สึกอยากได้บ้าง จึงรีบเข้าซื้อตาม เพราะกลัวว่ามันจะวิ่งไปไกลกว่านี้ กลัวขาดทุนกำไร

2. เบื่อ
ไม่อยากอยู่เฉยๆ เห็นใครๆก็คุยว่าได้กำไรกัน คุณเลยอยากมีส่วนร่วม หวังว่าจะได้เงินง่ายๆแบบพวกเขาบ้าง

3. พยายามเอาคืนเพื่อชดเชยการขาดทุนก่อนหน้านี้
ในช่วงหนึ่งของการเทรดนักเทรด ที่ต้องขาดทุนติดติดกันต่อเนื่องจนทำให้พอร์ตลดลงอย่างน่าใจหาย พวกเราจะรู้สึกหงุดหงิดและต้องการที่จะเอาคืน ทำเงินให้กำไรกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ลักษณะต้นตอ 3 อย่างที่นำเสนอมาทั้งหมดนั้นมันเป็นตัวกระตุ้นให้นักเทรดเข้าซื้อหุ้นโดยที่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่มีการวางแผนที่ดี สุดท้ายเขาก็ต้องก้มหน้าก้มตารับผลการขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก

มี 4 วิธีง่ายๆที่ช่วยให้นักเทรดเรียนรู้ และพัฒนาทักษะการอดทนให้มีมากขึ้นกว่าเดิม
1) แบ่งไม้ซื้อก้อนเล็กๆเพื่อใช้ในการหาทิศทาง ก็เหมือนกับนักกอล์ฟ ที่เขาโปรยหญ้าขึ้นไปในอากาศเพื่อหาทางลมพัด อันจะทำให้เขาวางแผนว่าจะตียังไงให้ได้ผลดี นักเทรดก็เช่นกัน คุณควรที่จะแบ่งเงินในการเข้าซื้อด้วยจำนวนน้อยๆก่อน เพื่อหาว่าตลาดเคลื่อนไหวยังไง ตรงกับสไตล์ของเราหรือไม่

2. ค่อยๆเข้าหรือออก
มีการวางแผนก่อนเข้า และพยายามทนรวย การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถฝึกใช้ความอดทนได้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการรอ การเรียนรู้จับจังหวะตลาด ซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถระบุจุดเข้าซื้อได้ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม

3. บันทึกทุกจังหวะที่คุณสูญเสียความอดทนอย่างละเอียด
เมื่อคุณจำจังหวะพวกนั้นได้ คุณก็สามารถที่จะปรับปรุงและหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกได้

4. สร้างความเชื่อเรื่องของการสะสมกำไรมากกว่าทำกำไรให้ได้ครั้งเดียว
การเทรดนั้นมันเป็นเกมของกระบวนการสะสมกำไรให้ได้อย่างต่อเนื่องจากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และสะสมจากเดือนให้มันเติบโตเป็นปี
เมื่อเรามองในมุมนี้ได้มันก็จะทำให้เรามีความอดทนไม่ใจร้อนซึ่งมันจะส่งผลไปถึงการวางแผน กลยุทธ์ของการเทรดของเราให้มีความรอบคอบมากขึ้น

ถ้าคุณมีนิสัยของความอดทนเมื่อเวลาผ่านไปกาญอดทนจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จและทำให้ผลงาน portfolio ของคุณเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน


2 Methods to More Patient Trading

ถ้าคุณเทรดมาสักพักหนึ่งแล้ว มักจะได้ยินนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ เขาแนะนำให้พวกเราเทรดด้วยความอดทนและไม่ใช้อารมณ์ร่วมกับการเทรด

มันฟังดูเหมือนง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังฝึกเทรดด้วยการใช้บัญชีจำลอง แต่อย่างไรก็ตาม, มันจะเป็นเรื่องยากมาก ถ้าคุณใช้เงินจริงในการเทรดแล้ว

หนึ่งในความผิดพลาดของนักเทรดที่เกิดในช่วงตลาดไร้แนวโน้มก็คือ พวกเขากลายเป็นคนใจร้อนซื้อและขายหุ้นผิดจังหวะ เช่น ซื้อก่อนที่สัญญาณจะยืนยันชัดเจน และก็ขายก่อนที่จะราคาจนเป้าหมาย

ในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน มักจะบีบคั้นให้เราหมดความอดทนอยู่เสมอ

เพื่อให้คุณสามารถมีความอดทนกับการเทรดได้ให้ปฏิบัติตาม ๒ วิธีการต่อไปนี้

๑) เทรดด้วยเงินจำนวนน้อยลง
นักเทรดอย่างพวกเรามักจะมีความเชื่อว่าเมื่อราคาทะลุขึ้นไปจากรูปแบบราคาที่น่าเชื่อถือ มันจะต้องวิ่งขึ้นไปถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อซื้อไปแล้วราคาวิ่งขึ้นช้ามากยังไม่ถึงเป้าที่ต้องการเสียทีมันก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัด และบีบคั้นให้เราต้องขายหุ้นออกมาก่อนเวลาอันควร

จะดีกว่าไหมถ้าการเทรดในครั้งต่อไปของคุณใช้เงินน้อยลงกว่าเดิมเพราะถ้าหากเราเดิมพันไม่เยอะความเสี่ยงความร้อนรนมันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจคุณมากนักจึงทำให้คุณมีความอดทนมากขึ้น

จำไว้ว่าในช่วงที่ตลาดไม่มีแนวโน้มนักเทรดส่วนใหญ่มักจะขาดทุนเสมอถ้าหากคุณไม่รู้จักกาลเทศะสู้ในเกมที่โอกาสชนะยากมากคุณก็มีแนวโน้มสูญเสียมากกว่าได้กำไร ยิ่งคุณใช้เงินเข้าซื้อแต่ละตัวมากเท่าไหร่คุณยิ่งเสียหายเยอะ และปัญหาต่อไปก็จะหนักก็มากขึ้นเพราะว่าการจะเอาคืนนั้นคุณต้องทำให้ได้มากกว่าเดิม

การเล่นเกมแบบตั้งรับเก็บเล็กผสมน้อยคือสิ่งที่คุณควรทำเพราะอย่างที่บอกไว้ว่าตอนนี้มันเป็นสิ่งแวดล้อมที่เอาชนะได้ยากมาก การเล่นแบบเสียให้น้อยไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ในทางที่ดีกว่า,ถ้าคุณเป็นคนฉลาดกว่านี้ก็ไม่ควรเล่นในช่วงตลาดไม่เป็นใจ

๒) ดูกราฟระยะยาวขึ้น
อีกแนวทางหนึ่งที่จะทำให้คุณมีความอดทนมากขึ้นก็คือให้ดูกราฟที่ยาวขึ้น
ข้อดีของการดูกราฟระยะยาวก็คือว่ามันทำให้เรามองเห็นภาพใหญ่ ไม่ถูกหลอกลวงและกระตุ้นจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น อีกทั้งเรายังมองเห็นสิ่งแวดล้อมแนวรับแนวต้านได้มากขึ้นด้วย
คุณจะได้เห็นการพัฒนาของแนวโน้มในภาพใหญ่ซึ่งมันอาจจะทำให้คุณพิจารณามันโดยใช้อคติน้อยลง
ยกตัวอย่างเช่นนักเทรดตามแนวโน้มระยะยาวด้วยการดูกราฟและพื้นฐานพวกเขาจะเห็นระดับของแนวต้านและแนวรับในระยะยาวจึงตัดสินใจซื้อใกล้ๆกับแนวรับและตัดสินใจขายใกล้ๆกับแนวต้าน
แนวทางนี้มันจะทำให้เราเครียดน้อยลง และยังมีโอกาสทำกำไรก้อนใหญ่ได้ในช่วงที่สภาวะตลาดวิ่งช้าในแบบนี้


How To Cultivate Patience as a Trader

คุณเคยทำตัวเป็นเทรดเดอร์ที่ใจเร็ว ด่วนได้ เกินไปหรือไม่?
เช่น รีบขายหุ้นเพื่อเก็บเงินสดเอาไว้ก่อนเวลาอันควร, รับซื้อก่อนมีการยืนยันราคาที่แน่นอน
ใช่ครับ...คุณกำลังขาดความอดทน

วิธีการเพาะปลูกความอดทนสำหรับนักเทรด
นี่เป็นปัญหาที่นักเทรดจำนวนมากต้องเจอกันทุกวันพวกเขามักจะคิดว่า "ทำไมฉันต้องรอจนกว่าราคาวิ่งไปถึงจุดที่วางแผนไว้ล่ะ ตอนนี้มันก็น่าจะเข้าได้แล้วนะ" นี่เป็นการกระทำที่แหกกฎและกลยุทธ์ที่คุณได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้

ความจริงแล้วนักเทรดที่ประสบความสำเร็จพวกเขามักจะบอกว่าความสำเร็จของการเทรดนั้นไม่ใช่การซื้อๆขายๆ แต่คุณต้องมีการวางกลยุทธ์และซื้อขายตามแผนของตัวเองเท่านั้น
พูดง่ายๆคือไม่ซื้อขายสะเปะสะปะ ไม่ต้องการทำเงินในทุกจังหวะแต่จะเทรดในจังหวะที่ตัวเองได้วางแผนมาแล้วเท่านั้น ไม่มั่วหน้างานโดยเด็ดขาด

การที่คุณเทรดโดยที่ไม่มีแผน หรือมีแผนแต่ไม่ทำตามมัน คุณทำตามอารมณ์ ตามใจที่ด่วนได้ ในที่สุดผลของการเทรดครั้งนั้นก็มักจะเลวร้ายสวนทางกับสิ่งที่คุณต้องการเสมอ

โอเคว่าความทะเยอทะยานคุณต้องดำรงมันไว้แต่การรอสัญญาณที่มีการยืนยันชัดเจนก่อนเข้าซื้อขายก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

นี่คือแนวทางที่คุณควรลองปฏิบัติเพื่อให้เกิดความอดทนและให้ดูความแตกต่างกับอดีตที่คุณเคยทำ

๑) เข้าใจกระบวนการเทรดมันอาจจะดูยุ่งยากเพราะว่าไม่เคยมีใครบอกให้คุณรู้จักรอเลยพวกเขามักจะกระตุ้นให้คุณเห็นโอกาสในการทำกำไรมากกว่าใส่ใจกับความเสียหายถ้าคุณรอไม่เป็น
กระบวนการเทรดของพวกเราคือ
ไปที่คอมพิวเตอร์> นั่งรอ > แล้วเทรด ก็มีเท่านี้
ทุกครั้งที่คุณรอด้วยเหตุผลที่ดีไม่ใช่เพราะความกลัวหรืออะไรก็ตาม คุณจะทำเงินได้ ดังนั้นจงคำนึงถึงความสูญเสียถ้าหากคุณรีบร้อนเกินไปให้ดี
เมื่อเข้าซื้อจริงๆแล้วคุณหน้าที่ของคุณต่อไปคือรอรอจนกว่าราคาจะวิ่งไปถึงเป้าทำเงินให้คุณแล้วค่อยขาย หน้าที่สำคัญของนักเทรดก็คือเข้าซื้อขายในจังหวะที่ใช่เท่านั้น
บางทีการทำงานมากไป ขยันเกินไปแบบพนักงานออฟฟิศ ที่เข้างาน10 โมงออก 4 โมงเย็น พยามเทรดทุกจังหวะมันก็ไม่ทำให้ประสิทธิผลของการทำงานสูงสุดหรอกนะ ยิ่งคุณเทรดบ่อยเท่าไหร่โอกาสที่คุณจะสูญเสียก็มีมากตามเท่านั้น

๒) นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำแต่บางครั้งคุณก็สามารถรู้สึกถึงผลลัพธ์ของมันได้แต่ที่แน่ๆก็คือการนั่งสมาธิจะช่วยให้คุณปลดปล่อยความไม่อดทนหรือความรู้สึกไม่สามารถรอได้เมื่อความสงบเข้ามาคุณก็สามารถอดทนต่อสถานการณ์ที่คุณเคยใจร้อนในก่อนหน้านั้นได้
ถ้าหากคุณยังไม่เชื่อก็ลองนั่งลงในที่เงียบสงบปิดตาของคุณและโฟกัสไปที่การหายใจของคุณเป็นเวลา 10 นาทีจากนั้นก็ลองเปรียบเทียบความรู้สึกคุณดู

๓) ปรับปรุงแผนการเทรด
เมื่อคุณพบว่าบ่อยครั้งที่คุณเข้า Trade มันมักจะชักนำคุณให้ต้องเกิดความใจร้อนทำลายความอดทนของคุณเสมอบางทีคุณต้องกลับไปทบทวนแผนการเทรดจุดเข้าซื้อขายของคุณดูอีกรอบนึงเพื่อที่จะหาความบกพร่องและปรับปรุงโดยมุ่งเน้นไปที่ระบุจุดเข้าและออกที่ละเอียดขึ้นจนปิดโอกาสที่เราต้องใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
เป็นไปได้ไหมว่าคุณจะเอาอินดิเคเตอร์อีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็นตัวช่วยยืนยันถ้าหากมันยังไม่ส่งสัญญาณว่าถึงเวลาที่ถูกต้องคุณก็ยังไม่ซื้อ การที่เรามีตรวจสอบทานขึ้นมาอีกสักตัวมันก็จะช่วย โน้มเอียงเหตุผลในการตัดสินใจให้ฝั่งการเทรดที่ใช้เหตุผลนั้น มันมีน้ำหนักมากขึ้น

ถึงตอนนี้คุณจะเห็นได้ชัดว่าการอดทนเป็นเรื่องยากที่จะปลูกฝัง คุณจะต้องมีการปฏิบัติทั้งทดลองและเทรดจริงด้วยเงินจริง
การเอาชนะตัวเองด้วยการไม่อดทน มันจะส่งผลที่เลวร้ายในอนาคตได้
บางทีความอดทนมันก็มีค่ามากกว่ากำไรเสียด้วยซ้ำ ความอดทนการรอคอยมันก็คือเงินต้นของเราอีกก้อนหนึ่ง แม้มันเป็นสินทรัพย์ที่มองไม่เห็น แต่ถ้าหากเราเอามาใช้เป็น มันสามารถทวีกำไรและลดการสูญเสียของคุณได้อย่างมหาศาลเลยครับ

------------------------------------------------------
-----------------------------------------
-------------------------
(โฆษณา)
หนังสือผลงานของผู้เขียนเองครับ
มีสองเล่ม พี่น้อง ดำ - เขียว


"หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" (เล่มดำ) แนะแนวทางการเทรดหุ้นแนวโน้มขาขึ้น ด้วย กราฟวีค ก็จะเน้นการดูแนวโน้มขาขึ้นด้วย price pattern จากนั้นก็รันเทรนด์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ย จบลงที่การขายด้วย price pattern เรียกว่าครบวงจรตั้งแต่ซื้อยันขายเลยครับ อ่านเล่มเดียวจบ

ส่วน "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" (เล่มเขียว) แนะแนวทางการเทรดหุ้นแนวโน้มขาขึ้นด้วยกราฟรายวัน เล่มนี้จะเน้นการดูแท่งเทียน เอามาใช้ในการหาสัญญาณต้นเทรนด์ของขาขึ้น ซื้อหุ้นแบบ buying strength, buy weakness รันเทรนด์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 10,20,50, 100, 200 วัน ขายหุ้นออกด้วย selling into strength, selling weakness ครบวงจรเช่นกัน


สนใจติดต่อสั่งซื้อหนังสือหุ้นทั้งสองเล่ม
ส่งข้อความไปที่เพจ Zyo Books : facebook.com/zyoboooks


ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานของเซียว จับอิดนึ้ง ครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ศาสตร์และศิลปะของการปั้นพอร์ต ให้เติบโตสม่ำเสมอ Art & Science of Trading